****** คือหนังหายากเบอร์ระดับต้นๆของโลกใบนี้ : The Great Buddha Arrival / 2018 (จงกรมแห่งการแจ้งเตือน) 😊

 

****** คือหนังหายากเบอร์ระดับต้นๆของโลกใบนี้ : The Great Buddha Arrival / 2018 (จงกรมแห่งการแจ้งเตือน) 😊

 

สมัยปี 2018 ผมเคยพยายามตามหาไฟล์ตัวเต็มของหนังหายากเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ก็พบกับความล้มเหลวเสียทุกครั้ง ปลายปี 2018 มีข่าวปล่อยออกมาว่าหนังเลื่อยฉายไปเป็นช่วงปลายปี 2019 แทน แล้วจากนั้นข่าวคราวของมันก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไร้ร่องรอย หาเท่าไหร่ก็ไม่เคยเจอแต่ประการใด จนคิดว่าชาตินี้อาจไม่สามารถสืบค้นงานชิ้นนี้ได้ กระทั้งช่วงต้นเดือนมีนาคม 2023 ก็เริ่มได้เบาะแสบางอย่าง เกี่ยวกับผู้นำพาไฟล์ต้องห้ามชิ้นหนึ่ง เอามาปล่อยไว้ ณ สถานที่ลึกลับบางพิกัดพื้นที่ อย่างเงียบๆ หากันจนเจอ และไม่รีรอที่จะโหลดไฟล์ตัวเต็มของมันขึ้นมาเชยชม ของหายากเบอร์ระดับต้นๆของโลกใบนี้ กับ 6 ปีที่กว่าเราจะได้เจอกัน The Great Buddha Arrival / 2018 (จงกรมแห่งการแจ้งเตือน)

 

หนังใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า The Great Buddha Arrival / 2018 หรือ Daibutsu kaikoku / 2018 หรือชื่อในภาษาท้องถิ่นว่า 映画『大仏廻国 2018 เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในหนังหายากสาย Genres: Fantasy, Sci-Fi ตัว Top จากประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว หนังความยาว 50 นาที(รวม End Credit ด้วยก็ยาวเพิ่มเป็น 59 นาที) ผลงานการกำกับของ Director: Hiroto Yokokawa บทหนัง(Writers)โดย: Robert Hood, Hiroto Yokokawa, และ Kazuma Yoneyama

 

กล่าวกันว่ามูลเหตุและแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ Director: Hiroto Yokokawa และทีมงานพยายามสร้างเจ้า The Great Buddha Arrival / 2018 ออกมาให้สำเร็จนั้น สืบเนื่องมาจากเขามีแรงบันดาลใจและต้องการที่จะ Reboot ชิ้นงานระดับโคตรตำนานของญี่ปุ่นอย่าง Daibutsu kaikoku / 1934 ขึ้นมาอีกครั้ง (Daibutsu kaikoku / 1934 : เกี่ยวกับเรื่องเล่าของพระพุทธรูปขนาดยักษ์ รู้จักกันในญี่ปุ่นว่าชื่อ “ท่าน Daibutsu”  ความสูง 33 เมตร ซึ่งมีชีวิตขึ้นมาและออกเดินทางท่องเที่ยวไปในเมืองต่างๆในประเทศญี่ปุ่นอย่างเบิกบาน ท่านเดินจงกรมไปเรื่อยๆจนถึงกรุงโตเกียว ก่อนที่พระพุทธรูปองค์นี้จะบินขึ้นไปบนฟ้า และหายเข้าไปในกลีบเมฆตลอดกาล)

 

หากในญี่ปุ่นมี Daibutsu kaikoku / 1934 เป็นตำนานลำดับแรกๆแล้ว ทำไม Director: Hiroto Yokokawa และทีมงานจึงพยายามสร้างงาน Reboot ของ The Great Buddha Arrival / 2018 ขึ้นมาเทียบรัศมี เรื่องนี้มีคำตอบ เพราะครั้งหนึ่ง มีเหตุบางประการทำให้งานต้นฉบับของ Daibutsu kaikoku / 1934 สูญหายไปตลอดกาลนั่นเอง ใช่….มันหายไปตลอดกาล 

 

อืมมม….  แล้วถามว่า Daibutsu kaikoku / 1934 หายไปไหน ครับเคยได้ยินว่ามันหายไปตลอดกาล ไม่มีทางที่ใครจะตามค้นเจออีก เพราะสำเนาเดียวของ Daibutsu kaikoku / 1934 ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  แผ่นฟิล์มถูกทำลายลงอย่างสิ้นซากจากสงคราม ภาพที่รู้จักกันเพียงอย่างเดียวชุดเดียวของหนังเรื่องนี้ ที่ยังหลงเหลือจนถึงปัจจุบัน ล้วนเป็นภาพขาว-ดำ ที่เก็บได้มาจากบทความในนิตยสารฉบับเก่าๆ เหลือแค่นี้จริงๆ นักถ่ายทำภาพยนตร์-และนักดูหนังยุคใหม่ๆรู้จัก Daibutsu kaikoku / 1934 จากภาพขาว-ดำ ที่หลงเหลือจากพิษสงครามในครั้งนั้นด้วยภาพเพียงไม่กี่ใบ เหลืออยู่แค่นี้จริงๆครับ นี่จึงเป็นแรงขับมหาศาลของ Director: Hiroto Yokokawa และทีมงาน ที่ต้องการฟื้นตำนานของ Daibutsu kaikoku / 1934 ให้กลับมามีชีวิตโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง เพื่อเป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานชาวญี่ปุ่นได้ภูมิใจในวัฒนธรรมแขนงนี้ตราบนานเท่านาน และ Daibutsu kaikoku / 2018 ก็ถูกสร้างขึ้น ด้วยพลังศรัทธาและแรงจูงใจแรงบันดาลใจมหาศาล จนสำเร็จ

 

โครงเรื่องหลักๆใน Daibutsu kaikoku / 2018 นำเสนอเกี่ยวกับผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีคนหนึ่งชื่อ Murata ที่เขาได้รับมอบหมายให้สืบค้นประวัติเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “The Great Buddha Arrival” (หรือ Daibutsu kaikoku / 1934) ที่สูญหายในไปปี 1934 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  จากนั้นหนังก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวการทำงานของ Murata โดยเริ่มต้นจากการสัมภาษณ์ผู้คน นักข่าว นักวิชาการ รวบรวมภาพถ่ายของภาพยนตร์ที่สูญหายดังกล่าว และพยายามทำความเข้าใจถึงความคิดรวบยอดของผู้กำกับคนแรกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างไว้ด้วยเหตุผลและมูลเหตุแรงจูงใจใด รวมถึงการสืบค้นตำนาน ความจริงเกี่ยวกับ “ท่าน Daibutsu”  พระพุทธรูปความสูง 33 เมตร ซึ่งมีชีวิตขึ้นมาและออกเดินจงกรมเดินทางท่องเที่ยวไปในเมืองต่างๆในประเทศญี่ปุ่นเมื่อยุคสมัยปี 1934 ว่ามีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด

 

โดยระหว่างการสืบค้นข้อมูล ดูเหมือนว่า Murata ยังค้างคาใจในหลายๆเรื่อง กระทั่ง เขาเผลอหลับไป แล้วก็ต้องตกใจตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนคล้ายกำลังเจอแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หรืออะไรสักอย่าง ลองเปิดมือถือดู ก็พบว่า คนญี่ปุ่นส่งต่อข้อความสื่อสารกันเต็มไปหมด ข้อความที่ส่งกันส่วนใหญ่ คือ…. “It's a walking Great Buddha!” (พระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีชีวิต กำลังเดินจงกรมรอบเมือง) ถึงตรงนี้ Murata ไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากบ้าน ขับรถมุ่งไปที่เมืองไอจิ แล้วก็พบถึงความโกลาหลของผู้คนระหว่างทาง รวมถึงชาวเมือง เมื่อพระพุทธรูปในนิกายมหายานชื่อ “ท่าน Shurakuen” ซึ่งนั่งสมาธิอยู่ในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น เกิดมีชีวิตขึ้นมา ตื่นจากสมาธิ และเดินจงกรมไปรอบเมืองนาโกย่า จากนั้น พระพุทธรูปองค์นี้ก็เดินสำรวจออกไปทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น ทำให้คนทั้งโลกตื่นตระหนกจากการรายงานข่าวของช่องสถานีโทรทัศน์จากทั่วทั้งโลก  ใช่  เพราะนี่คือจงกรมแห่งการแจ้งเตือน….

 

 

หลังดูจบ….

ถ้าจะนับว่า Daibutsu kaikoku / 1934 คือภาพยนตร์แนว “โทคุซัทสึ” เรื่องแรก (Tokusatsu Film : นั่นคือแนวภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับสเปเชียลเอฟเฟก แนวๆ ก็อตซิลล่า หรืออุลตร้าแมน อะไรประมาณนี้) The Great Buddha Arrival / 2018 ก็คือการสร้างชิ้นงานเพื่อคารวะต่อตำนานรุ่นแรกอย่าง Daibutsu kaikoku / 1934 ที่ชิ้นงานหายสาบสูญไปในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไม่มีวันกลับ  จึงไม่แปลกใจที่เราจะได้เห็นชิ้นงานในช่วงแรกมีการพยายามใช้เทคนิคถ่ายทำให้มันดูเก่าๆ เหมือนฟิล์มเก่าๆ เพื่อเลียนแบบชิ้นงานในยุคสมัยปี 1934 แปะเพิ่มลงในชิ้นงานยุคสมัยใหม่ปี 2018 ด้วย นี่คือการระลึกถึงงานที่หายไปในครั้งนั้นอย่างเทิดทูนสูงสุด และเป็นการคารวะต่อ Director: Yoshiro Edamasa ผู้สร้าง Daibutsu kaikoku / 1934 อย่างให้เกียรติสูงสุดด้วยเช่นกัน

 

งานเอฟเฟคและคอมฯกราฟฟิก(พวกงาน CGI)พระพุทธรูปยักษ์มีชีวิตที่กำลังเดินจงกรมไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ถือว่าทำออกมาได้ดีตามเนื้อผ้าและทุนทรัพย์สำหรับการจัดสร้างที่มีอย่างจำกัด ผสมเข้ากับบทสวดในสไตล์พุทธนิกายมหายานแบบญี่ปุ่นแล้ว ถือว่าเข้ากันดี ให้ผ่านครับ

 

ฉากจบของหนัง โอเค ผมถึงตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ภาคภาษาไทยไงว่า….  “จงกรมแห่งการแจ้งเตือน”

 

กับวลีสุดท้ายในหนัง….  Don't hasten your death.

 

หลังดูจบให้ 7.5 / 10 คะแนนครับ หนังดีเลยนะเรื่องนี้ ดูจบแล้วก็ขอให้ท่านทั้งหลาย มีสติ!

 

#แอดมินซามาร่า 😊